เรื่องที่แล้ว

หน้า หลัก

เรื่องต่อไป

 อยากลองจนเจอดี 
        คือยุจะมีเพื่อนในกลุ่มที่สนิทกันอยู่ประมาณ 6-7 คน ผู้หญิง 3 คน ชาย 6 คน แล้วประเทืองอีก 1 คน ด้วยนิสัย และความอยากรู้อยากเห็นก็เลยทำให้เราชอบทำอะไรแผลงๆ โดยการรวมกลุ่มกันแล้วตั้งเป็นชมรมคนรักผีขึ้น มา แต่ใน 7 คนจะมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อยาย ซึ่งจะเป็นคยขี้กลัวโดย เฉพาะผีจะกลัวมากแต่ว่าเขาจะเป็นคนที่เฮ ไหนเฮนั่น ก็เลยยอม เข้าชมรมกับเรากดของเรามีอยู่ว่า ทุกวันตอนเที่ยงหลังทานข้าวและก่อนติวหนังสือ เพื่อน แต่ละคนจะผลัดกันหาเรื่องผีๆมาเล่าสู่กันฟังและในวันเสาร์ที่ว่างที่สุด ในแต่ละเดือน เราจะมีนัดกันไปพิสูจน์ว่า วิญญาณมีจริงมั้ยและทุกครั้งที่ไปพิสูจน์ก็ถือว่าธรรมดาไม่เจออะไรจะมีก็แต่เสียงหมาหอน เสียงลมเสียงต้นไม้ หรือว่าบางทีไม่มีสถานที่ไปเราก็จะไปเล่นผีถ้วยแก้วกันและแล้วในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน พวกเราก็นัดกันว่าจะ ไปที่บ้านร้างนอกเมืองเพื่อนเขาไปสืบมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมานานแล้วด้วย ไม่รู้ว่าจะจริงแค่ไหน ที่ เขาว่าบ้านหลังนี้เมื่อก่อนเคยมีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ สมาชิกครอบครัวก็มีสามีภรรยาที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด และก็แม่ของภรรยามีอยู่คืนหนึ่ง่ที่เป็นคืนเกิดเหตุ คือว่าสามีเนี้ยเมากลับมาบ้านและก็ลื้อข้าว ของค้นเงินเพื่อที่ จะนำไปเล่นการพนัน แต่ว่าภรรยาไม่ให้ทะเลาะกันถึงขั้นตบตีและสามีเนี้ยก็ใช้มีดตะขอเสียบท้องภรรยาจนตาย คาที่ ส่วนแม่เมื่อเห็นลูกสาวถูกแทง ด้วยความรักลูกสาวและโกรธก็วิ่งเข้าไปเอาดาบที่อยู่ในห้องพระมาหมายจะ ฆ่าลูกเขยชั่วๆแต่ก็ต้องมาเสียที่ถูกลูกเขยแทง เข้าที่กลางหลังปลายมีดโผล่ทะลุหน้าท้องทีเดียว ชาวบ้านแถว นั้นได้ยินเสียงร้องจึงพากันมาดูแต่ก็ช้าไปเสียแล้วเพราะว่าบ้านแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันมาก พอมาถึงก็พบแม่ลูก ถูกฆ่าตายโดยที่ผู้เป็นแม่นั้นตายอย่างอนาถมากถูกแทงด้วยดาบทะลุท้องแถมยังเป็นการยืนตายพิงระเบียงบ้าน ส่วนลูกเขยนั้นไม่ได้สนใจอะไรเลยกลับกำลังรื้อค้นหีบผ้าอยู่ตรงหน้า เมื่อชาวบ้านเห็นดังนั้นก็ร้องด้วยความตก ใจแถมยังร้องเสียเสียงดังอีก สักพักก็มาลมพัดมาอย่างแรง จนกระทั่งศพผู้เป็นแม่ยายนั้นขยับและสิ่งที่ทุกคนไม่ คาดฝันก็เกิดขึ้นและรวดเร็วมากเมื่อร่างไร้วิญญาณได้เอนล้มลงมาทับลูกเขยตัวแสบปลายมีดที่โผออกมาเสียบ เข้าให้ที่เหนืออกตายทันทีไม่มีโอกาศได้สั่งเสียอะไรกับใครเลย หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่แถว นั้นก็มักจะเจอเหตุการณ์ที่ชวน สยองขวัญในเวลาค่ำมืดเป็นประจำ เรียกว่าจะเจอดีแทบทุกรายนี่จึง เป็นโอกาส ดีที่พวกเราจะพิสูจน์ว่าวิญญาณมีจริงหรือว่าเป็นแค่ภาพที่คนกลัวนึกไปกันเองเท่านั้นพวกเรามาถึงบ้านหลังนี้กัน ประมาณเกือบเที่ยงคืน แถวนี่มืดและเงียบกว่าที่คิดหลังจากที่รถตู้พาหนะที่พวกเราใช้ในการเดินทางถูกจอดไว้ หน้าบ้านพวกเราก็ลงจากรถตู้พร้อมไฟฉายและยืนรออยู่ก่อนเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ในระหว่างที่เรายืนรออยู่นั้น จะมีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนทุกครั้งคือมันเงียบเหมือนกับเป่าสาก หมาสักตัวก็ไม่มาหอนให้ได้ยินตอนนั้นอยู่ ๆ ก็กลัวขึ้นมาเฉยเลยมันวังเวงชอบกล แต่ทุกคนก็ยังปิดปากเงียบหลังจากที่รอดูร่วม 10 นาทีก็ยังไม่มีอะไรเพื่อน ที่ชื่อ เอ๊ะ ก็พูดขึ้นว่า "เข้าไปดูกันเถอะว่ะ แล้วแกไอ้แว่นอย่าลืมติดเครื่องไว้แหละเพื่อเอาไว้จะได้เผ่นทัน" ทุก คนหันมามองเอ๊ะเป็นตาเดียวกัน และก็กำลังจะต่อว่าว่าเขาปากพาจน แล้วทุกคนก็ได้อ้าปากค้างเมื่อแว่นส่องไฟ ฉายไปที่ เอ๊ะ พร้อมกับเสียงร้องแล้ววิ่งขึ้นรถหลังจากเห็นตัวหนังสือคำว่า "ตาย" เขียนด้วยเลือดบนเสื้อตัวใหม่ ของเพื่อนเจ้าเอ๊ะรีบถอดเสื้อทิ้งแล้วว่งตามเราขึ้นรถตู้และปิดประตูอย่างแน่นหนาที่สุด แว่นขับรถออกจากที่นั้น โดยเร็วทุกคนปิดปาก เงียบยกเว้นยายเพราะเธอร้องไห้มาตลอดทางแล้วก็พูดว่า"ยายไม่เอาแล้วนะ ยายกลัวแล้ว ก็ไม่ต้องชวนไปพิสูจน์อะไรบ้า ๆ อีกด้วย"แต่ทุกคนก็กลับมาด้วยความปลอดภัย ยุคิดว่าดีแล้วที่เจอแค่นั้น ถ้าเจอ ประเภทตัวจริงเสียงจริงคงซ็อกไปเลย พอถึงวันจันทร์พวกเราทุกคนก็ไปเรียนตามปกติ อาจารย์ที่ปรึกษาก็เอา พัสดุมาให้เจ้าเอ๊ะ พอเปิดดูก็เจอเสื้อสีขาวตัวหนึ่งซึ่งทุกคนจำได้ว่าเป็นเสื้อที่เจ้าเอ๊ะ ใส่ไปในวันนั้น แต่ทำไมไม่ มีรอยเลือดล่ะ จนทุกวันนี้เราก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าส่งที่เจอวันนั้นหมายความอย่างไร  

เรื่องที่แล้ว

หน้า หลัก

เรื่องต่อไป