เรื่องที่แล้ว

หน้า หลัก

เรื่องต่อไป

 แมวผี 
        โบราณมักถือว่าแมวดำเป็นตัวแทนของวิญญาณร้าย แต่แมวสีเทานวลในเรื่องนี้จะเป็นตัวแทนของอะไร เรื่องที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้มีอยู่ว่าลูกพี่ลูกน้องของดิฉัน คือพี่สม เกิดเบื่อกรุงเทพฯ เลยวางแผนชักชวนเพือนที่รู้ ใจกัน 4-5 คน โดยมีดิฉันห้อยท้ายไปด้วย รถออกตอนบ่ายๆ จุดหมายคือชายทะเลนั่นแหละค่ะ กะกันว่าจะพัก แรมที่บางแสนกันสักสองคืนแล้วค่อยกลับ การเดินทางเป็นไปอย่างสบายๆ เราผ่านชลบุรีอย่างรวดเร็วโดยไม่ หยุดพัก เพราะ ทุกคนต่างก็อยากไปลุยทะเลให้ฉ่ำอุรากันทั้งนั้น ..... แต่การเดินทางก็มีอุบัติเหตุนิดหน่อย คือ ขณะที่รถวิ่งไปอย่างรวดเร็วนั้น พอดีมีแมวสีเทานวลตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากป่าหญ้าข้างทาง ตัดหน้ารถอย่างกระ ชั้นชิดมาก จนไม่มีทางหักหลบหรือเบรคได้ทัน เราได้ยินแต่เสียง "แง้ว" ครั้งเดียวพร้อมกับเสียงมันปะทะช่วง ล่างของรถดังกึก รถส่ายนิดหน่อยเพราะว่าตกใจ แต่ก็ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เราจึงไม่เสียเวลาลงไปดูเพราะ คงช่วยมันไม่ได้แล้ว เมือถึงที่พัก พวกเราต่างขนของเข้าบังกะโลกัน แล้วรีบเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้เล่นน้ำ แล้วก็ ลงเล่นน้ำกัน ........... พอใกล้มืดเราก็ขึ้นจากน้ำ อาบน้ำ แล้วก็ช่วยกันเตรียมอาหารไม่นานก็เสร็จ เรายกของกิน ทั้งหลายมานั่งกินกันที่ระเบียง เพื่อรับลมทะเล แต่สักพักฝนก็ตกลงมา ทำให้บรรยากาศไม่สดใสนัก ตอนที่เรา สนุกกันนั้นเอง เราได้ยินเสียงแมวร้องครางแว่วมา มันดังแผ่วๆเหมือน ลมพัดมาไกลๆ ตอนแรกพวกเรานึกว่า หูฝาดไปเอง แต่อีกสักครู่หนึ่ง เสียงนั้นดังมาให้ได้ยิน อีกครั้ง และดังมาจากแถวบังกะโลตรงถนนที่เรานั่งรถยนต์ ผ่านเข้ามานั่นเอง "เอ้! หญิงว่าเราออกไปดูมันหน่อยดีกว่า" หญิงเพื่อนคนนึงของพี่สมบอกกับแฟนของเขา พี่สมก็เห็นด้วย ...เขาจึงพากันออกไปดูนอกบังกะโล ข้างนอกนั้นค่อนข้างมืดแล้วน่ากลัว ต้นไม้ยืน ส่ายไหวๆอยู่ รอบด้านก็ดูราวกับร่างปีศาจ แต่ก็ขัดพี่สมไม่ได้เพราะแกสั่งให้ดิฉันไปด้วย เราต่างออกเดินหากันโดยใช้ไฟฉาย ส่องทาง บรรยากาศรอบข้างดูจะลึกลับเหมือนมีอะไร ซ่อนอยู่ ..ฟังจากเสียงมันคงอยู่แถวนี้ เราต่างช่วยกันร้อง เหมียวๆ แล้วก็ส่องไฟไปเรื่อยๆ จนเจอตัวเจ้าแมวตัวนั้นจนได้ เราก็เดินเข้าไปจะหยิบตัวมันขึ้นมา แต่มันกลับ ถอยหลังแล้ว วิ่งหนีไปจนหยุดที่ต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งมีผ้าแพรพันอยู่รอบๆต้น คิดว่าคงเก่าแก่และ ศักดิ์สิทธิ์ ไม่น้อย ดิฉันขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว พี่สมฉายไฟให้ ส่วนดิฉันค่อยๆเดินไปอุ้มลูกแมว ตัวนั้น มันยอมให้อุ้ม แต่โดยดี พอเราได้เห็นแมวตัวนั้นถนัดตาเราก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะ มันสีเหมือนกับแมวตัวที่วิ่งตัดหน้ารถ แล้วชนเอาตอนบ่ายนั้นเหลือเกิน แต่เราก็พามันกลับ บังกะโล เพราะฝนเริ่มเม็ดหนาขึ้นทุกที พี่หญิงเป็นคนอุ้ม แมวกลับ ... แต่เดินได้สักพักพี่หญิงก็ทำท่าหมดแรงเหมือนจะอุ้มแมวตัวนั้นไม่ไหว แต่พี่หญิง ก็อุ้มมันมาเรื่อย ๆ จนรู้สึกเหมือนมีอะไรผิดปกติเสียแล้ว เพราะมีเสียงคล้ายอะไรถูกลากผ่าน ใบไม้ที่หล่นอยู่บนพื้น ..ดิฉันสงสัย จึงกดไฟฉาย แล้วฉายไปดูพี่หญิงซึ่งเดินตามหลังสุด พี่หญิงหยุดกึก " หง่าว "เสียงอันหน้าสะพรึงกลัวจนบรรยาย ไม่ถูกพร้อมกับเสียงพี่หญิงเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างอกสั่นขวัญหายแล้วช็อคหมดสติไปทันที ดิฉันอยู่ในสภาพ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะภาพที่เห็นนั้นยังทำให้ร่างดิฉันขยับเขยื่อนไม่ได้ เหมือนมนต์สะกดจนพี่สมหันกลับมา ดู แล้วเข้าไปดูอาการของพี่หญิง และช่วยกันอุ้มขึ้นบังกะโล ทำการ ปฐมพยาบาลจนฟื้น พวกเราก็ถามว่าเป็นอะ ไร แต่พี่หญิงกลับตัวสั่นไม่พูดจา จนพวกเราช่วย กันปลอบกับพักนึง ...."แมวตัวนั้น...ไม่ใช่แมว" พี่หญิงพูดออก มาอย่างหวาดๆ"มันเป็นผีแน่ๆ เพราะตอนอุ้มมามันก็เบาๆอยู่ แต่พออุ้มไปกลับหนักขึ้นทุกทีจนอุ้มแทบ ไม่ไหว และพอเอะใจหันไปดูมัน ... มัน" เพื่อนๆสงสัยกัน มันเป็นอะไรเหรอ "ขาหลังมันเป็นขาคนน่ะซิ ขาคนจริงๆนะ " พอได้ยินพวกเราก็อยู่ในความเงียบ ไม่มีไครพูดออก" แง่ววาวววววววววววว......................."  

เรื่องที่แล้ว

หน้า หลัก

เรื่องต่อไป